ประวัติมัสยิดอัลย่ามาอะห์คลองใหม่
ณ ที่ตำบลคลองด่าน อ.บางบ่อ (บางเหี้ย) จ.สมุทรปราการ (ราชการในสมัยก่อนนั้นเมื่อมีหนังสือราชการใดๆก็จะตามวงเล็บในหนังสือนั้นๆว่า อ.บางบ่อ (บางเหี้ย)ปัจจุบันนี้ได้งดใช้แล้ว สถานที่แห่งนี้เองได้ถูกอัลเลาะห์(ซ.บ.)กำหนดให้มีมัสยิดเกิดขึ้นหลังหนึ่งเพื่อเป็นที่ซุหยูดต่อพระองค์ หลังจากปี พ.ศ. 2485 ต่อ พ.ศ.2486 ซึ่งได้มีน้ำท่วมกรุงเทพฯ
และทั่วไปน้ำท่วมใหญ่จนขนาดที่ว่าสามารถใช้เรือยนต์แล่นไปได้ทั่วๆ ลัดทุ่งนา ลัดบ้านเรือนได้ทุกซอกทุกมุมและเป็นช่วงที่เกิดมหาสงครามเอเชียบูรพา(สงครามญี่ปุ่น) ญี่ปุ่นได้เข้ามาประเทศไทยและใช้เป็นทางผ่านเพื่อทำสงคราม หลังจากสงครามสงบ มัสยิดอัลย่ามาอะห์คลองใหม่แห่งนี้ได้ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2487 โดยที่ครอบครัวพี่น้องมุสลิมจำนวนน้อยๆ 5-6 ครอบครัวได้ประชุมกันเพื่อสร้างมัสยิดขึ้นและในที่สุดก็มีมติเป็นเอกฉันท์ โดยให้ใช้ที่ดินของ(อัลมัรฮูมตอเล็บ โชติมัน)เป็นที่ตั้งชั่วคราวไปก่อนจนกว่าจะมีที่ถาวรในอนาคต
การสร้างมัสยิดอัลย่ามาอะห์คลองใหม่ครั้งแรกนั้น สร้างโดยการถมที่ดินให้สูงขึ้นจากพื้นเดิมประมาณ 50
เซนติเมตร มีความกว้าง 3 วา 2 ศอก ยาว 4 วา 2 ศอก ใช้ทางจากยาวๆผ่าซีกทำฝาด้านข้างขัดแตะด้วยไม้ใผ่ และมุงหลังคาด้วยจาก ส่วนพื้นมัสยิดก็ทุบดินปรับแต่งให้เรียบ แล้วใช้เสื่อเตย(สมัยนั้นนิยมมาก เนื่องจากเป็นวัสดุที่ผลิตกันได้เองตามบ้าน เสื่อกกยังมีน้อย) ปูบนพื้นทำการละหมาดกันเรื่อยมา ประมาณเวลา 8- 10 ปีซึ่งครั้งต่อมาได้ยกพื้นขึ้นมาโดยมีผู้ให้ยืม
ไม้กระดานมาใช้ทำพื้นชั่วคราวเขาผู้นั้นคืออัลมัรฮูมฮัจยีซำซุดดีน รอเซ็น
ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2495 ได้มีผู้ศรัทธาคือนายซำซู(อยู่บ้านครัว)บริจาคเงินจำนวน 15,000 บาท(หนึ่งหมื่นห้าพันบาท)ผู้อาวุโสในขณะนั้นมีอยู่ 3-4 คนคือ อัลมัรฮูมตอเล็บ โชติมัน อัลมัรฮูมฮัจยีมาลี กาเทศ อัลมัรฮูมฮัจยีอับดุลเลาะห์
(เวาะยีเลาะห์) อัลมัรฮูมฮัจยีซำซุดีน รอเซ็นได้ปรึกษาหารือกันและในที่สุด อัลมัรฮูมตอเล็บ โชติมันได้ตกลงบริจาคที่ดิน
จำนวน 2 ไร่เศษให้สร้างมัสยิดถาวร โดยสร้างเป็นเรือนไม้ทรงปั้นหยาหลังคามุงด้วยกระเบื้อง กว้าง 3 วา 2 ศอก ยาว 4 วา
2 ศอก ใต้ถุนสูงชั้นเดียว ทั้งนี้ได้ย้ายมาจากที่ดินเดิมเคลื่อนมาทางตะวันออกในที่ดินแปลงใหม่ซึ่งติดคลองชลประทาน กว้าง 20 วา ลึกเข้าไปประมาณ 40 วา ต่อมาได้บริจาคที่ดินให้เป็นที่ฝังศพ(กุโบร์)อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งอยู่ติดด้านหลังของมัสยิด
ต่อมาลูกๆของ อัลมัรฮูมตอเล็บ โชติมัน ได้ร่วมบริจาคให้เป็นที่กุโบร์เพิ่มขึ้นจากเดิม ซึ่งมีเนื้อที่กุโบร์ 1 งาน และ
อัลมัรฮูมฮัจยีมาลี กาเทศได้ร่วมซื้อที่ดินข้างเคียงบริจาคเพิ่มอีก 1 งาน จึงทำให้มีเนื้อที่กุโบร์กว้างขึ้นอีก รวมเป็นเนื้อที่อุทิศทั้งหมด 3 ไร่ 1 งาน 12 ตารางวา(รวมทั้งเนื้อที่มัสยิดและกุโบร์รวมกัน)กุโบร์ในปัจจุบันมีรั้วรอบกั้นเป็นเขตชัดเจน ดำเนินการดูแลบำรุงรักษาโดยฮัจยีอิสมาแอล โชติมัน
หลังจากสร้างมัสยิดเป็นอาคารไม้ทรงปั้นหยาหลังคามุงกระเบื้องแล้วได้ประกอบศาสนกิจเป็นปกติจนต่อมา
พ.ศ. 2498 จึงได้ประชุมกันขอจัดตั้งเป็นมัสยิดถาวร โดยจดทะเบียนเมื่อ 24 มกราคม 2498 ใช้ชื่อมัสยิดว่า อัลย่ามาอ่าตุ้ล
อินซานุลมุสลิม มีอัลมัรฮูมฮัจยีมาลี กาเทศ เป็นอิหม่าม นายสนั่น ปานทอง เป็นคอเต็บและนายซำแอน(เดวิด) โชติมัน
เป็นบิหลั่นได้จดทะเบียนมัสยิดเลขที่ 7 หมู่ 11 ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ
ต่อมา พ.ศ. 2514 มีการแปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารมัสยิด โดยมีอัลมัรฮูมฮัจยีมาลี กาเทศ เป็นอิหม่าม
นายสุมิตร โชติมัน เป็นคอเต็บและอัลมัรฮูมฮัจยีซีมเบ๊ะกี เป็นบิหลั่นและต่อมามีผู้อาวุโสหลายคนได้ประชุมกันเพื่อจะขยายมัสยิดให้กว้างขึ้นกว่าเดิมเนื่องจากมีพี่น้องมุสลิมที่เป็นสัปปรุษเพิ่มจำนวนขึ้น ในที่สุดวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2515
ได้ทำการวางศิลารากฐานอาคารมัสยิดหลังใหม่ โดยท่านจุฬาราชมนตรี ต่วน สุวรรณศาสน์ ครั้งนี้สร้างเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กกว้าง 4 วา (วัดรอบในไม่คิดชานลูกกรงรอบนอก) ยาว 8 วา ซุโต๊ะห์อีก 3วา รวมเป็นตัวอาคารยาว 11 วา
ต่อมาได้มีการสร้างเสาบังสูงประมาณ 20 เมตรขึ้น โดยได้จากเงินบริจาคของพี่น้องในชุมชนเองและพี่น้องทั่วๆไป
ครั้งแรกได้ยอดเงินรวม 80,000 บาท(แปดหมื่นบาท) เริ่มทำการก่อสร้างต่อมามีผู้มีจิตศรัทธารายใหญ่บริจาคสนับสนุน
เพิ่มอีกจนแล้วเสร็จคือ (อัลมัรฮูมะห์สมวงศ์ วงศ์พานิช)บ้านอยู่พระประแดง ตระกูลวงศ์พานิช ได้ช่วยเหลือค้ำจุนมาโดย
ตลอดจนแล้วเสร็จใช้เงินก่อสร้างรวม 4,000,000 ล้านบาท
ต่อมา พ.ศ.2527 ได้ประชุมกันเพื่อเปลี่ยนชื่อมัสยิดให้เหมาะสม เนื่องจากทางราชการจะเขียนชื่อมัสยิดคลาดเคลื่อนบ่อยๆเพราะเป็ภาษาอาหรับและยาวมาก ซึ่งประกอบกับขณะนั้นมีการแต่งตั้งอิหม่ามคนใหม่มาดำรงตำแหน่ง
แลัวคืออัลมัรฮูมฮัจยีมูซอ สังข์สว่าง เป็นอิหม่าม นายสุมิตร โชติมัน เป็นคอเต็บและอัลมัรฮูมฮัจยีซีมเบ๊ะกี เป็นบิหลั่น
ที่ประชุมมีมติให้ใช้ชื่อเดิมแต่ง่ายๆโดยเปลี่ยนเป็น มัสยิดอัลย่ามาอะห์คลองใหม่ มีการดำเนินถูกต้องตามระเบียบราชการทุกอย่าง มีที่ดินโอนเป็กรรมสิทิ์ให้เรียบร้อย มีสถานที่ฝังศพ(กุโบร์) มีอาคารมัสยิดที่ใช้งานได้สะดวก มีที่อาบน้ำละหมาดเป็นสัดส่วนมีห้องน้ำมีอาคารเอนกประสงค์ไว้สำหรับทำกิจกรรม มีการสอนศาสนา อัลกุรอ่านฟัรดูอีนและมีแท๊งค์ขนาดใหญ่ไว้สำหรับเก็บน้ำฝนไว้ใช้ในฤดูแล้งอีกด้วย
ต่อมา พ.ศ. 2543 มีผู้อาวุโสสูงสุดอยู่จำนวนหนึ่งไม่มากนักได้แก่
1. ฮัลมัรฮูมฮัจยี ซำซุดดีน รอเซ็น
2. อัลมัรฮุมฮัจยีอารี โชติมัน(อดีตประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสมุทรปราการ)
3. ฮัจยีเต็บ โต๊ะแขก
4. อัลมัรฮูมแชฮานาฟี ซันกา
5. อัลมัรฮูมฮัจยีซีมเบ๊ะกี
6. ฮัจยีสุมิตร โชติมัน
7. แชอัดนาน รอเซ็น
สำหรับการเรียนการสอนภาคสาสนาประจำมัสยิดใช้อาคารชั้นล่างและอาคารเอนกประสงค์เป็นห้องเรียนชั่วคราว
เปิดสอน 7 ชั้นเรียน คือระดับเตรียมปฐมวัย 4-5 ขวบ และชั้น 1-6 สอนรวมบูรณาการทั้งอัลกุรอ่านและฟัรดูอีนโดยใช้หลักสูตรของสมาคมคุรุสัมพันธ์ สังกัดหน่วยสอบที่ 27 (มัสยิดกลางจังหวัดสมุทรปราการ)มีนักเรียนชายหญิงรวม 115 คน
ครู 5 คน คือนายอารี สมานมิตร ครูใหญ่สอนชั้นเตรียมปฐมวัย นางฮับเซาะห์ สมานมิตร สอนชั้น ปีที่ 5-6
นางวนิดา หมัดสะและห์ สอนชั้นปีที่ 2 และ 4 นางสาวนูรียะห์ โชติมัน สอนชั้นปีที่ 3และมี ผู้ช่วยครูอีก 2 คนคือ นายสุรเชษฐ์ สมานมิตร และนางสาวอามีนา เบ๊ะกี
การสนับสนุนเงินเดือนช่วยเหลือครู ได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิด สัปปุรุษ
ผู้ปกครองนักเรียนและพี่น้องทั่วไปบริจาคไว้เป็นกองทุนช่วนเหลือเป็นรายเดือน(ไม่เก็บค่าเล่าเรียนจากผู้ปกครอง) การจัดการเรียนการสอน สอนวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 16.00 17.30 น. วันเสาร์เปิดสอนเวลา 09.00 15.00 น.
สำหรับวันอาทิตย์และวันที่มีกิจกรรมพิเศษ เป็นวันหยุดเรียน
ต่อมาเมื่อ 16 ตุลาคม 2554 อิหม่ามมูซอ สังข์สว่าง ถึงแก่กรรม(กลับไปสู่ความเมตตาของอัลเลาะห์(ซ.บ.)
จึงได้มีการเลือกตั้งอิหม่ามคนใหม่ในวันที่ 5 มีนาคม 2555 ฮัจยีสุมิตร โชติมันได้รับการเลือกตั้งเป็นอิหม่ามคนใหม่
ฮัจยีจำริญ โชติมันได้รับเลือกตั้งเป็นคอเต็บแทนฮัจยีสุมิตร โชติมัน ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นอิหม่ามคนใหม่ประจำมัสยิดอัลย่ามาอะห์คลองใหม่ต่อไป
ต่อมา พ.ศ. 2556 ชุมชนมัสยิดอัลย่ามาอะห์คลองใหม่ได้รับมอบอาคารโรงเรียนสอนศาสนา 2 ชั้น 4 ห้องเรียนใต้ถุนสูงหนึ่งหลังจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ(งบประมาณ 3,639,000 บาท (สามล้านหกแสนสามหมื่นเก้าพันบาท)โดยได้จากงบประมาณปี2554 ซึ่งมัสยิดได้ยื่นเรื่องขอไว้และได้ใช้เป็นอาคารเรียนศาสนา ศูนย์จริยธรรมประจำมัสยิดอัลย่ามาอะห์คลองใหม่ ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ
ปี 2556 คณะกรรมการมัสยิดอัลย่ามาอะห์คลองใหม่ได้ประชุมและมีมติไห้ถมกุโบร์ ให้แล้วเสร็จใช้งบดำเนินการ 260,000 บาทสาเหตุเนื่องจากการฝังเต็มไม่สามารถฝังมัยยิดได้อีกต่อไป และใช้งานได้จนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบันโรงเรียนสอนศาสนามีครู 4 คนได้แก่
1. นายจำเริญ โชติมัน เป็นครูใหญ่
2. นายนิพนธ์ พิมพา ครูประจำชั้น
3. นางวารี แสงศรี ครูประจำชั้น
4. นายศิริชัย พัสดุ อาจารย์พิเศษ ช่วยสอน
และผู้ช่วยครูอีก 2 คน มีนักเรียนชายหญิงจำนวน 92 คนจัดการเรียนการสอน สอนวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 16.00 17.30 น. วันเสาร์เปิดสอนเวลา 09.00 13.00 น.สำหรับวันอาทิตย์หยุดเรียน
ชุมชนมัสยิดอัลย่ามาอะห์คลองใหม่ยังมีนักเรียนนักศึกษา ทั้งที่กำลังศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศหลายคน และสำเร็จเข้ารับราชการในหลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ และบริษัทเอกชนทั่วไป
ชุมชนมัสยิดอัลย่ามาอะห์คลองใหม่ ตั้งอยู่เลขที่ 7 หมู่ 11 ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ
รหัสไปรษณีย์ 10550 ติดคลองชลประทาน ติดถนนสุขุมวิทสายเก่า ใกล้ประตูระบายน้ำนางหงส์ ใกล้สถานีภูธรคลองด่านใกล้สามแยกไฟแดงแยกเข้าตัวอำเภอบางบ่อ ทางคมนาคมสะดวก มีร้านจำหน่ายปลาสลิดบางบ่ออยู่หลายแห่งใกล้มัสยิด
ที่ ก.ม. 59-60 เส้นทางไปจังหวัดชลบุรี
แนะนำโดยคณะกรรมการมัสยิดอัลย่ามาอะห์คลองใหม่
1 มกราคม 2559 20 รอบีอุ้ลเอาวัล ฮ.ศ. 1437
กรรมการชุดปัจจุบันมีทั้งหมด 13 คน
1. นายสุมิตร โชติมัน อิหม่าม
2. นายจำเริญ โชติมัน คอเต็บ
3. นายอดุลย์ พิมพา บิหลั่น
4. นายมนตรี เซาะมัน เลขานุการ
5. นายศิริชัย พัสดุ เหรัญญิก
6. นายวินัย สะแอ นายทะเบียน
7. นายสมคิด รอมลี กรรมการ
8. นายยูนุช รักษาพล กรรมการ
9. นายเฉลิม เดือนกลาง กรรมการ
10. นายธงชัย เบ๊ะกี กรรมการ
11. นายชาติชาย อาดำ กรรมการ
12. นายอานนท์ สุขดี กรรมการ
13. นายสมชาย เมฆสินธ์ กรรมการ