มัสยิดกอมรุสมาน(บ้านไร่)
จังหวัดสมุทรปราการปัจจุบันมีมัสยิด ๑๔ หลัง และมัสยิดกอมรุสมาน(บ้านไร่)เป็นหลังที่ ๕ ของจังหวัดสมุทรปราการ โดยความเป็นมาเริ่มจาก มีมุสลิมเข้ามาอยู่อาศัยอยู่ใน หมู่ที่ ๒ ต.บางเสาธง อ.บางพลี(ในสมัยนั้น แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น อ.บางเสาธง) จ.สมุทรปราการ คือ ฮัจยีตอเย็บ อาดัมและครอบครัว และต่อมาได้มีมุสลิมอพยพเข้ามาเรื่อยๆจนมีมุสลิมประมาน ๑๐๐ กว่าหลังคาเรือน
และในปี พ.ศ.๒๔๗๖ ฮัจยีตอเย็บและโต๊ะต่วน อาดัม สองสามีภรรยาได้ปรึกษาหารือกันว่า บัดนี้มุสลิมเรามีมากแล้ว สมควรจัดตั้งมัสยิดขึ้น จึงได้เรียกประชุมชาวมุสลิมในหมู่บ้านและรวบรวมเงินได้พอสมควร จึงได้สร้างมัสยิดหลังแรกขึ้น เป็นเรือนไม้ปั้นหยาชั้นเดียวหลังคาสังกะสี ปลูกในที่ดินของฮัจยีตอเย็บ อาดัม โดยมีชื่อว่า มัสยิดกอมรุสมาน และมีอีหม่ามคนแรกชื่อ ฮัจยีอับดุลเลาะห์ ในหว่าง นายมิด เบ็นหะซัน เป็นตอเต็บและนายหวัง อาดัม เป็นบิหลั่น สร้างอยู่ได้ประมาน ๑๗ ปี มีประชาชนมากขึ้นทำให้คับแคบ
ในปี พ.ศ.๒๔๙๓ นายมูซอ อาดัม ได้เรียกประชุมสัปบุรุษในหมู่บ้านและรวบรวมเงิน ไปซื้อบ้านเก่าหลังสงครามโลก(ญี่ปุ่น)ครั้งที่ ๒ จากคลอง ๑๗ บางน้ำเปรี้ยว มาปลูกขึ้นแทนหลังเก่า โดยมีนายสำลี ในหว่าง เป็นอีหม่าม นายฟัด อาดัม เป็นคอเต็บ และนายบูลัน เป็นบิหลั่น
ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๐๐ โต๊ะต่วน อาดัม ได้มอบที่ดินให้มัสยิด ๑ ไร่ โดยในโฉนดที่ดินมีนายสะอ้าด อาดัม เป็นผู้ลงชื่อในโฉนดที่ดินนั้น ในขณะนั้นมี นายหวัง อาดัม เป็นอีหม่าม นายสะอ้าด อาดัม เป็นคอเต็บ นายดะเลน เบ็นหะซัน เป็นบิหลั่น
ปี พ.ศ.๒๕๐๖ มีนายอิบรอฮีม อาดัม เป็นอีหม่าม นายมูซอ อาดัม ผู้อุปการะ นายมัด โต๊ะมะ นายฟัด อาดัม นายเฮม เบ็นหะซัน นายสำลี ในหว่าง ได้หารือเพื่อสร้างมัสยิดขึ้นใหม่แทนหลังเก่าที่ทรุดโทรมมากแล้ว โดยมีนายมูซอ อาดัม เป็นผู้ออกทุนก่อสร้างให้ก่อน ๑๕,๐๐๐ บาท และรวบรวมจากสัปบุรุษ ๓,๓๐๐ บาท รวมเป็น ๑๘,๓๐๐ บาท สร้างเป็นเรือนไม้ปั้นหยาสองชั้น ชั้นบนเป็นพื้นไม้ ชั้นล่างเทเป็นคอนกรีต
ในปี พ.ศ.๒๕๒๐ วันที่ ๒๐ พ.ค. มีนายฮัจยียะห์ยา เจ๊ะมะ เป็นอีหม่าม นายสมัย อาดัม เป็นคอเต็บ นายนิวัฒน์ อาดัม เป็นบิหลั่น นายยูนุช ดำทองสุข นายซอและห์ อาดัม ได้ประชุมตกลงเห็นสมควรสร้างมัสยิดขึ้นใหม่เป็นแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก โดยได้จัดงานวางศิลารากฐานมี อาจารย์อะห์หมัดซีฮาบุดดีน คุรุสวัสดิ์ เป็นประธานในพิธี และได้รับเงินบริจาคจากประชาชน พร้อมทั้งฝ่ายกรมศาสนา และทางพรรคประชากรไทยมาช่วยเหลือ จนก่อสร้างเสร็จเมื่อ ๒๐ พ.ค.๒๕๒๗
และในปี พ,ศ,๒๕๓๗ มีนายสมนึก เจ๊ะมะ เป็นอีหม่าม จนถึงปัจจุบัน...และมีสัปบุรุษประมาน 1,400 ใน 269 หลังคาเรือน